Table of Contents

แกงส้มใต้ หรือ แกงเหลือง

แกงส้มใต้” เป็นเมนูอาหารคาวที่ได้รับความนิยมและถูกปรุงทำในครัวเรือนไทยอย่างแพร่หลาย มีลักษณะสีสันสดใสและรสชาติที่เข้มข้น โดยมีลักษณะเผ็ด เปรี้ยว จัดจ้าน ทำให้เป็นที่ชื่นชอบไม่น้อยในสมาชิกครัวเรือนทั่วไป สำหรับมื้ออาหารกลางวันหรือเย็น ไม่ว่าจะรับประทานร่วมกับข้าวสวยหรือข้าวเปล่าก็ยังอร่อยไม่เบื่อ เพิ่มความพิเศษในมื้ออาหารของครอบครัวไทยทุกท่าน

คำว่า “แกงเหลือง” ที่ใช้ในภาคใต้ของประเทศไทยนั้นมีต้นกำเนิดจากการใส่ขมิ้นในสูตร ต่างจากภาคอื่นที่ใช้กระชายแทน ทำให้รสชาติของแกงส้มใต้นั้นมีลักษณะที่เฉพาะเจาะจง นับเป็นที่นิยมและเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมอาหารในท้องถิ่นนั้น รสชาติที่จัดจ้าน โดยความเผ็ดที่มาจากพริก ความเปรี้ยวที่มาจากมะขามเปียกและมะขามหวาน และกลิ่นหอมจากสมุนไพรต่างๆที่ใส่เข้าไป ทำให้แกงส้มเป็นเมนูที่เสริมสร้างความอร่อยและถูกนำมาปรุงอาหารในครัวไทยมานาน ในปัจจุบันได้มีการสร้างเมนูอาหารต่างๆจากแกงส้มอีกมากมาย เพื่อตอบสนองความคลาสสิคและนิยมในยุคปัจจุบัน

แกงส้มใต้ผักรวม ไม่เพียงแค่อร่อย แต่ยังมีคุณค่าทางโภชนาการที่สูงมาก จากสมุนไพรที่นำมาปรุง มีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมันดี วิตามิน และแร่ธาตุ ทำให้แกงส้มไม่เพียงแค่เส้นสำหรับคนรักความอร่อย เท่านั้น วิธีแกงส้มใต้ แต่ยังเป็นมื้ออาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย

ทำให้ แกงส้มใต้หมูสามชั้น เป็นเมนูที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นรสชาติเผ็ดจากพริก ความเปรี้ยวจากมะขามเปียกและมะขามหวาน และกลิ่นหอมจากสมุนไพรต่างๆที่ใส่เข้าไป ทำให้แกงส้มเป็นเมนูที่เสริมสร้างความอร่อยและถูกนำมาปรุงอาหารในครัวไทยมานาน ในปัจจุบันได้มีการสร้างเมนูอาหารต่างๆจากแกงส้มอีกมากมาย เพื่อตอบสนองความคลาสสิคและนิยมในยุคปัจจุบัน

ส่วนผสมในการทำแกงส้มใต้ หรือ แกงเหลือง

มะละกอ1 ลูก
ปลาทับทิม1 ตัว
น้ำพริกแกงส้มใต้1 ซอง
น้ำมะขามเปียก5 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา3 ช้อนโต๊ะ
เกลือ1 ช้อนชา
น้ำตาลปีบ1 ช้อนโต๊ะ 

วิธีทำแกงส้มใต้ หรือ แกงเหลือง

เตรียมเครื่อง

• ล้าง/ปลอก/หั่นมะละกอเป็นชิ้นๆ

• ล้างปลาด้วยน้ำผสมน้ำส้มสายชู
เพื่อลดกลิ่นคาว หันปลาเป็นชิ้นๆ

• มะขามเปียก คั้นน้ำ

• ต้มน้ำให้เดือด เอาปลาที่หั่นเตรียมไว้ลงไปต้มให้สุกแล้วเอาขึ้นมาพักไว้ในจาน

• แกะเนื้อปลา 1 ชิ้น นำมาตำเบาๆกับน้ำพริกแกงให้เข้ากัน

• ตั้งนำชุปปลาเปิดไฟรอให้น้ำชุปปลาเดือดจึงนำเครืองแกงที่เตรียมไว้ลงละลาย ปิดฝาไว้สักครู่ รอเดือด จึงเติมมะละกอ รอจนเนื้อมะละกอเริ่มใส

• ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา น้ำตาลปีป ชิมรสตามชอบ อร่อยชัวร

• เอาปลาที่พักไว้ใส่หม้อ ปิดไฟ ชิมรสอีกครั้ง• เสร็จแล้ว พร้อมทาน